อากิตะ อินุของเรา Part 1

ผมต้องบอกก่อนว่าผมอาจจะเป็นคนที่เขียนหรือเรียบเรียงอะไรไม่ค่อยเก่งนะครับ แต่ผมตั้งใจเลือกที่จะเขียนเรื่องนี้เอง เพราะอยากให้คนที่อ่านได้สัมผัสว่า ยังมี "มนุษย์" คนหนึ่งที่ศึกษา เข้าใจ และเขียนเรื่องนี้จริงๆให้คุณได้อ่าน ไม่ได้มีแค่ AI

เรื่องที่เราจะคุยกันวันนี้เป็นเรื่องที่ลึกซึ้งพอสมควรครับ ผมอยากจะเขียนถึง "สิ่งที่สุนัขที่ชนะในมาตรฐานของ Akiho มี" แต่สุนัขที่ชนะในสนาม FCI ส่วนใหญ่มักจะขาดหายไป... สิ่งนั้นคือสิ่งที่เรียกรวมๆ ว่า "Akita Spirit" (จิตวิญญาณอากิตะ) มันคือ "ความพิเศษ" ที่หลายท่านอาจจะเคยสัมผัสได้ว่า อากิตะจากบางที่นั้นมีบางอย่างที่แตกต่างออกไป ไม่รู้ว่าคืออะไร แต่มันคือความรู้สึกที่มากกว่าแค่สีขน นิสัย หรือหน้าตาที่สวยงาม แต่เป็นสิ่งที่เรารับรู้ได้ผ่าน "ท่าที" และ "การแสดงออก" ของสุนัขตัวนั้น แก่นแท้ของ Spirit นี้ สามารถแบ่งออกเป็นสององค์ประกอบหลักครับ นั่นคือ Kan-i (悍威) ที่แปลว่า "ความองอาจน่าเกรงขาม" และ Shibu-mi (渋味) หรือ "เสน่ห์แห่งความเรียบง่ายสุขุม"

โดยในวันนี้ เราจะมาเจาะลึกกันที่เรื่องของ "คันอิ" (Kan-i) กันก่อนครับ

คันอิมาจากคำสองคำคือ Kan 悍 ที่แปลว่าง่ายๆความกล้าหาญ เด็ดเดี่ยว ไร้ซึ่งความกลัว

i 威 ที่แปลว่า พลังอำนาจ

สองคำนี้รวมกันจึงได้คำว่า Kan-i (悍威) ที่แปลว่า ความกล้าหาญที่มีบารมี หรือ ความองอาจที่น่าเกรงขาม ซึ่งต่างจากความก้าวร้าว ความรุนแรง โดยสิ้นเชิง

Kan-i แสดงออกผ่านทุกอิริยาบทของ อากิตะ ญี่ปุ่น ที่ดี ได้แก่

1.แววตา แน่นอนว่าต้องพูดถึงสิ่งนี้ก่อนเป็นสิ่งแรกครับเพราะเป็นส่วนที่ผมเองก็ประทับใจมากเช่นเดียวกัน แววตาจะต้องดูสงบนิ่ง เหมือนผ่อนคลาย แต่ทว่าแฝงไว้ด้วยความดุดันและกดดันลึกๆภายในเมื่อถูกจ้องมอง ไร้ซึ่งความวิตกกังวลและท่าทางล่อกแล่ก หวาดกลัว แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ใช่แววตาที่ดุร้าย เกรี้ยวกราด ต้องทำการแยกแยะส่วนนี้ให้ดีครับ ( เป็นแววตาเหมือนกับนักรบที่ชำนาญศึกที่แท้จริง เพราะนักรบพวกนี้ผ่านการต่อสู้มานับครั้งไม่ถ้วนจนสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นเป็นเพียงส่วนนึงของชีวิตที่เจอเป็นประจำจึงผ่อนคลายได้ และด้วยการกระทำผ่านการผ่อนคลายนี้นั่นเองที่ทำให้นักรบผู้นั้นสามารถเอาชัยได้เพราะไม่ได้ถูกกระตุ้นโดยความเครียดจนกระทำการเสียกริยาซึ่งเป็นเหตุให้พลาดท่าได้บ่อยๆครับ )

2.ท่ายืน อากิตะ ญี่ปุ่นที่ดีจะยืนสี่ขามั่นคง สี่ขากระจายน้ำหนักอย่างพอดี ราวกับหยั่งรากลงพื้นดิน อกผายไหล่พึ่ง คอตั้งตรงสง่า ดูแข็งแกร่ง มีความมั่นใจ ไม่ยืนขาชิดอย่างหวาดกลัว

3.จิตวิญญาณภายใน ส่วนนี้คือส่วนที่พูดถึงได้ยากในการจะอธิบายให้คนทั่วไปเข้าใจที่สุดตั้งแต่แค่แปลความหมายของคำแล้วครับเพราะมาจากคำว่า Kihaku (気迫) ที่มาจาก คิที่แปลว่าจิตวิญญาณ พลังงาน ลมปราณ และ ฮาคุที่หมายถึงพลัง ความกดดัน ที่แผ่ออกมาจากตัวหมา ดูมีความกดดันลึกๆมากกว่าแค่แววตา เป็นแก่นแท้ของต้นกำเนิดพลังที่เรารู้สึกได้จากอากิตะ ญี่ปุ่น ที่ดีจะมีสิ่งนี้เสมอ ให้ความรู้สึกเหมือนพลังบางอย่างที่พร้อมจะระเบิดออกมายามที่จำเป็นแต่เลือกที่จะยืนอย่างสงบนั่นเอง

4.ออร่า เป็นสิ่งที่สัมผัสได้ด้วยความรู้สึกลึกๆเท่านั้น เป็นส่วนที่จับต้องและทำความเข้าใจค่อนข้างยากครับ มันคือส่วนผสมของทั้งสามส่วนแรกอย่างน่ามหัศจรรย์ เมื่อยืนนิ่งๆจะดูเหมือนมันสามารถควบคุมบรรยากาศรอบๆได้โดยไม่ต้องทำอะไรเลย มันคือหมาที่ดึงดูดทุกสายตาให้จ้องไปที่พวกมัน ไม่ใช่เพราะแค่พวกมันสวยแต่เป็นเพราะพวกมันยิ่งใหญ่น่าเกรงขามครับ เหล่านี้คือสิ่งที่เป็นองค์ประกอบแรกที่แตกต่าง โดยจริงๆแล้วจะยังมีในส่วนของ Shibu-mi และ Akita Spirit ที่เป็นส่วนต่างของหมาทั้งสอง standard นี้แม้ว่าเกณฑ์ของรูปลักษณ์จะเป็นอย่างเดียวกันแต่กรรมการของ Akiho จะพิจารณาถึงสิ่งเหล่านี้ด้วยจึงทำให้ตัวหมาออกมาแตกต่างกัน

แล้วครั้งหน้าผมจะมาพูดถึง Shibu-mi อีกทีครับ

ไม้จากทามะการ์เด้น