🌍 สงครามอิสราเอล–อิหร่าน: จุดเปลี่ยนของเศรษฐกิจโลก และการล่มสลายของ AI ฟรี?
- deathlyyogurt
- 13 มิ.ย.
- ยาว 1 นาที
วันที่ 13 มิถุนายน 2025 อาจถูกบันทึกไว้ว่าเป็นวันเปลี่ยนผ่านอีกครั้งของโลก เมื่ออิสราเอลตัดสินใจเปิดฉากโจมตีอิหร่านโดยตรง ไม่ผ่านตัวแทน ไม่อ้อมค้อมอีกต่อไป ผลกระทบที่เกิดขึ้นเริ่มแสดงตัวอย่างรวดเร็ว ทั้งในเชิงเศรษฐกิจ ภูมิรัฐศาสตร์ และเทคโนโลยีระดับสูง
จากข้อตกลงผ่อนคลายระหว่างทรัมป์กับสีจิ้นผิงที่เพิ่งสร้างความหวังให้เศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว กลับถูกถาโถมด้วยสงครามศาสนาเต็มรูปแบบที่อาจขยายวงออกไปทั่วตะวันออกกลาง และผลักโลกทั้งใบเข้าสู่ภาวะถดถอยอีกครั้ง
📌 1. สหรัฐฯ ไม่ขาดน้ำมัน...แต่ใช้ "พลังงาน" เป็นหมากต่อรอง
สหรัฐเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยเฉพาะจากแหล่ง shale oil และกลายเป็น ผู้ส่งออกสุทธิ ไปแล้วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
แต่การผลิตเยอะ ≠ ราคาถูก เพราะราคาน้ำมันอิงกับตลาดโลก
หากเกิดการปิดช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันกว่า 20% ของโลก ราคาจะพุ่งทันทีจาก “panic” และ “war premium” แม้จะยังมีน้ำมันอยู่ในตลาดก็ตาม
สหรัฐฯ จะฉวยโอกาสนี้อย่างแน่นอน:
ขายน้ำมันแพงขึ้นในนามของ “การช่วยโลก”
ใช้พลังงานเป็น leverage ต่อรองในเวทีโลก
ฟื้นฐานะทางเศรษฐกิจและการเมืองภายในประเทศ
⚡ 2. จุดจบของ AI ฟรี: เมื่อบริษัทต้องเลือกระหว่าง "อุดมคติ" กับ "อยู่รอด"
ในโลกของปัญญาประดิษฐ์ ยุคทองของ AI ฟรีอาจจบเร็วกว่าที่คาด เพราะบริษัท AI ทั้งหลายต้องแบกรับต้นทุนพลังงานมหาศาล โดยเฉพาะการรันโมเดลขนาดใหญ่ระดับ GPT‑4 หรือ Claude 3.5 ที่ต้องใช้ GPU farm ตลอดเวลา
หากสงครามลากยาว และพลังงานยังแพงต่อเนื่อง บริษัท AI อาจไม่มีทางเลือกอื่นนอกจาก “หยุดให้ใช้ฟรี” และหันมาเน้นเฉพาะกลุ่มที่จ่ายได้เท่านั้น
🕌 3. สงครามศาสนา: ภัยพิบัติใหม่ในโลกที่เชื่อมต่อกันหมด
นี่ไม่ใช่แค่สงครามระหว่างสองประเทศ แต่คือ สงครามความเชื่อ ที่ลุกลามไปทั่วทั้งภูมิภาค:
อิหร่าน + ซีเรีย + เฮซบอลเลาะห์ + ฮูตี จากเยเมน = พันธมิตรมุสลิมที่ยืนหยัดต่อต้านอิสราเอล
หากซาอุดีอาระเบีย หรือตุรกี ถูกดึงเข้าไปในวง → ความขัดแย้งจะกลายเป็นระดับภูมิภาคเต็มรูปแบบ
OPEC ส่วนใหญ่เป็นประเทศมุสลิม → หากใช้โอกาสนี้ขึ้นราคาน้ำมันโดยไม่คัดค้านสงคราม = ภัยซ้อนซ้อน
ความขัดแย้งศาสนาไม่สิ้นสุดในสิบปี และไม่จบลงด้วยสนธิสัญญาเพียงฉบับเดียว
📉 สงคราม + พลังงานแพง = เศรษฐกิจถดถอยรอบใหม่?
เมื่อราคาน้ำมันพุ่ง สินค้าทุกชนิดจะแพงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ — ตั้งแต่ค่าขนส่ง, ปุ๋ย, อาหารสัตว์, ไปจนถึงค่าไฟฟ้าในดาต้าเซ็นเตอร์ที่ใช้รัน AI ทั้งโลก
ผู้ใช้ทั่วไปจะรับภาระจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
กลุ่มธุรกิจที่พึ่งพาเทคโนโลยีหนักต้องปรับตัว หรือยุบตัว
โลกอาจเข้าสู่ “ภาวะถดถอยเร่งด่วน” หลังฟื้นตัวไม่ถึง 6 เดือน
🎯 สรุปแนวคิด: วิกฤติ + ปัญญา = โอกาส
การมองโลกในแง่ร้ายอาจทำให้เราเศร้า แต่การ มองโลกตามความจริง ทำให้เรา “พร้อม” รับมือ
ในฐานะผู้ที่เฝ้าติดตามเทคโนโลยีและการเกษตรแบบพึ่งพาตนเอง ผมเชื่อว่า:
ใครก็ตามที่สามารถสร้างระบบที่ไม่ผูกติดกับพลังงานส่วนกลาง
มี AI ของตัวเอง (หรือสามารถรัน AI แบบ local)
ควบคุมการผลิตอาหาร–พลังงาน–ข้อมูลในพื้นที่ตัวเอง
จะไม่ใช่แค่ “อยู่รอด” แต่จะ “อยู่เหนือสถานการณ์”




ความคิดเห็น