พันธุศาสตร์ของยีนลาเวนเดอร์: ถอดรหัสสีม่วงเทาแห่งออร์พิงตัน
- deathlyyogurt
- 20 มิ.ย.
- ยาว 1 นาที

ไก่ออร์พิงตันสีลาเวนเดอร์มีเสน่ห์เฉพาะตัวด้วยสีขนเทาอมม่วงจางสม่ำเสมอทั่วทั้งตัว ลักษณะนี้เกิดจาก ยีนลาเวนเดอร์ (lavender gene) ซึ่งเป็น ยีนด้อยบนโครโมโซมออโตโซม (autosomal recessive)ยีนนี้ต้องมีทั้งสองชุด (จากพ่อและแม่) จึงจะแสดงออกเป็นสีลาเวนเดอร์แท้ได้ หากมีเพียงชุดเดียวจะไม่แสดงลักษณะ แต่อาจเป็นพาหะของยีนแทน
🔬 กลไกของยีน $lav$
ยีนนี้ทำหน้าที่ เจือจางทั้ง eumelanin (สีดำ) และ phaeomelanin (สีแดง/น้ำตาล)
ในเชิงโมเลกุล คือการกลายพันธุ์ของยีน MLPH (melanophilin) ที่ส่งผลต่อการลำเลียงเม็ดสีไปยังเซลล์ขน
ผลลัพธ์คือไก่สีดำกลายเป็นโทนม่วงเทาอ่อนทั่วตัว เรียบเนียน ไม่มีลาย
🧬 ลาเวนเดอร์ ≠ สีฟ้า
แม้จะคล้ายกันในสายตา แต่ยีนที่ควบคุมสีลาเวนเดอร์ ($lav$) และสีฟ้า ($Bl$) แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง:
💡 มาตรฐาน & ความท้าทายในการพัฒนา
สีลาเวนเดอร์ยังไม่ใช่ “สีมาตรฐาน” ที่รับรองโดยสมาคม APA แต่เป็นที่นิยมสูงในวงการไก่โชว์
ลักษณะสีที่ดีควร เรียบเนียนทั้งตัว มีประกายม่วงเงินแบบ pearl-like
ความท้าทายใหญ่คือ "Shredder Gene" – ยีนด้อยที่มักแฝงมากับ $lav$ ทำให้ขนเปราะและแตกปลาย ดูไม่เรียบร้อย
🧪 แนวทางแก้ปัญหา: กลยุทธ์ "ไก่สปลิท"
เพื่อปรับปรุงคุณภาพขน ผู้เพาะพันธุ์มักใช้กลยุทธ์ดังนี้:
ลาเวนเดอร์ x ดำ → ลูกไก่จะเป็น “ดำสปลิท” (พาหะของ lav)
ดำสปลิท x ลาเวนเดอร์ → ลูกไก่ลาเวนเดอร์ 50% + ดำสปลิท 50% (ขนมักดีกว่า)
ดำสปลิท x ดำสปลิท → ลาเวนเดอร์ 25%, ดำสปลิท 50%, ดำแท้ 25%
🪶 ข้อสังเกตจาก Tamahagane Garden
จากประสบการณ์ตรง ผมพบว่าไก่ลาเวนเดอร์ดั้งเดิมที่นำเข้าจากเยอรมันหรือสายอื่น ๆ ในตลาดไทยยังมีปัญหาเรื่องคุณภาพขนและรูปลักษณ์โดยรวมที่ไม่สวยพอผมจึงตั้งใจวางราคาต่ำกว่าตลาด และ กำลังพัฒนาไก่ลาเวนเดอร์รุ่นใหม่ด้วยการนำสายดำคุณภาพดีมาผสม เพื่อก้าวข้ามปัญหา “Shredder Gene” หากได้ผลลัพธ์ที่น่าสนใจ ผมจะอัปเดตให้ผู้สนใจทุกคนทราบแน่นอนครับ



ความคิดเห็น