top of page
ค้นหา

ประสบการณ์ใช้ AI เขียน Code สำหรับการเกษตรฟื้นฟู

  • deathlyyogurt
  • 30 มิ.ย.
  • ยาว 1 นาที

อัปเดตเมื่อ 13 ก.ค.

ทำไมเกษตรกรถึงต้องใช้ AI ในการทำการเกษตร?


วันนี้จะมาเขียนเล่าถึงประสบการณ์ในการลองใช้ AI เขียน code ครับ ซึ่งจะเป็นการเล่าประสบการณ์รวมๆ เพื่อให้ทุกคนที่อ่านเข้าใจว่าทำไมเกษตรกรที่ทำ Regenerative Agriculture ซึ่งเป็นแนวทางสายธรรมชาติ ถึงต้องมาใช้ AI ในการทำงานต่างๆ เช่น การทำรูป ทำวิดีโอ แต่งภาพ และทำคอนเทนท์ แม้ว่าหลายคนอาจจะมองว่าการใช้ AI เป็นเพียงเทรนด์ที่ดูหน่อมแน้ม เบื้องหลังมันมีเหตุผลที่สำคัญครับ


ในการทำการเกษตรฟื้นฟูระบบนิเวศนั้น เราจำเป็นต้องพึ่งพาการรักษาสมดุลของธรรมชาติ ช่วยสร้างระบบนิเวศที่เหมาะสมกับพื้นที่ ทำให้เราสามารถลดงานลงมากกว่าการเกษตรกรรมเคมีที่ต้องพึ่งพาแรงงานมนุษย์อย่างมาก แต่ถึงแม้ว่าเราจะพึ่งพาธรรมชาติได้ดีขึ้น เราก็ยังต้องเผชิญกับอุปสรรคจากสภาพอากาศที่ไม่แน่นอน


การพัฒนาเทคโนโลยีในเกษตรกรรม


การนำ AI มาช่วยในกระบวนการเกษตรกรรมมีข้อดีหลายประการ เนื่องจากมันช่วยในการทำงานซ้ำซากที่มนุษย์ไม่ต้องการทำ เช่น การอาหารสัตว์ หรืองานที่ต้องทำเป็นประจำ ในยุค Generative AI และการมาถึงของ ChatGPT ทำให้ผมเห็นว่าการใช้ AI ในการทำการเกษตรเป็นวิธีที่น่าสนใจมาก


จุดเริ่มต้นของการเขียน Code


ก่อนอื่นต้องเล่าก่อนว่าตัวผมจบแค่วุฒิ ม.6 สายภาษา (อังกฤษ-ญี่ปุ่น) พื้นฐานการเขียน code ของผมมีแค่การเขียนเว็บจาก CSS, HTML หรือใช้โปรแกรมสำเร็จรูปอย่างเว็บ wix เท่านั้น ภาษา C, JavaScript, C++ แทบไม่มีพื้นฐานเลย เคยพยายามเรียนใช้ Arduino แต่ก็ล้มเลิกไป จนมาถึงยุค AI การมาถึงของ ChatGPT ทำให้ผมเกิดความคิดว่าถ้าเราสามารถใช้ AI ในการเกษตรได้ จะช่วยลดงานได้มหาศาล ซึ่งจะทำให้ผมมีเวลาพัฒนาส่วนอื่นๆ เพิ่มในอนาคต


เริ่มต้นทดลองใช้ AI


เริ่มแรกผมใช้ ChatGPT ตัวฟรีเมื่อราวๆ ปีก่อน ลองเขียน code ดู มันก็เขียนได้ตามหลักการ แต่ code รันแล้ว error ออกมาเพียบ จนต้องมาให้มันแก้ใหม่ และการพึ่งพาข้อมูลเก่ามากเกินไปทำให้เกิดปัญหา


เมื่อเห็นผลลัพธ์ที่ไม่พอใจ ผมตัดสินใจเติมเงินเพื่อใช้ ChatGPT Plus รายเดือน ในราคาประมาณ 750 บาท ผลที่ได้ก็ดีขึ้นมาก ข้อมูลกลายเป็นปัจจุบันขึ้น การเขียน code ดูซับซ้อนขึ้น ทำได้บ้างในเรื่องของระบบ Arduino อย่างไรก็ตาม เวลาเขียน code ที่ต้องเชื่อมโยงหลายตัว มันก็ยังทำให้เกิดความยุ่งเหยิงได้


การพัฒนาระบบตรวจจับสภาพแวดล้อม


ในเวลาที่ทำงานตรงนี้ ผมใช้เวลาอยู่หลายวันเพื่อสร้างระบบ sensor ตรวจจับความร้อนที่เปิด-ปิดไฟและพัดลมได้ จากนั้นผมเริ่มเห็นว่าความซับซ้อนของระบบนี้ ทำให้มีงานอีกหลายอย่างที่อาจจะต้องพึ่งพาระบบที่ง่ายกว่านี้ได้


ความต้องการในการสร้าง AI ของตัวเอง


ผมเริ่มสร้าง AI ชื่อว่า “Project ชิเมะ” (ตามชื่อหมาอากิตะของผม) ที่ช่วยดูแลลูกไก่ และควบคุมอุณหภูมิอย่างชาญฉลาด โดยมันจะสามารถเรียนรู้จากพฤติกรรมที่ทำงานได้เอง อยากให้มันรู้ว่าทำไมต้องเปิดไฟ และไม่เพียงแค่เปิด-ปิดตามอุณหภูมิเท่านั้น


AI ในอนาคตของการเกษตร


ต่อมา หลังจากได้เรียนรู้และทำงานแบบนี้ไปได้สักระยะ ผมก็เริ่มคิดว่า ถ้าระบบ AI ที่เราใช้มันไม่สามารถช่วยให้เราทำงานได้ตามต้องการ คงจะต้องใช้หลายตัวเข้ามาช่วยกันเพื่อให้การทำงานดีขึ้นกว่าเดิม


อีกทั้งเมื่อไม่นานมานี้ได้ดูช่อง The Standard ที่พูดถึง Agentic AI ว่าจะช่วยทำงานต่างๆ ได้จริง ไม่ใช่แค่ AI ที่ปรึกษาแบบเดิมๆ ที่เราคุ้นเคย ด้วยความคิดนี้ ผมเริ่มมีแรงบันดาลใจในการค้นหาและพัฒนาวิธีในการใช้ AI ให้มากยิ่งขึ้น


สรุป


ด้วยการเข้ามาของ AI เรามีโอกาสที่จะปรับปรุงกระบวนการทำการเกษตรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ง่ายขึ้น และที่สำคัญ เต็มไปด้วยความรู้และนวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะช่วยให้การทำการเกษตรยั่งยืนมากขึ้น


 
 
 

ความคิดเห็น

ได้รับ 0 เต็ม 5 ดาว
ยังไม่มีการให้คะแนน

ให้คะแนน

ไม่ใช่แค่สัตว์เลี้ยง แต่พวกเขาคือความสงบในบ้าน พร้อมแล้วสำหรับคนที่เข้าใจความแตกต่าง

Akita Inu & Orpington by Tamahagane Garden.

Not just pets. They’re presence.

A quiet bond. A living legacy.

bottom of page