top of page
ค้นหา

AGI (Artificial General Intelligence) คืออะไร และจะทำอะไรได้บ้าง? ผลกระทบเบื้องต้นต่อไทยและโลก

  • deathlyyogurt
  • 30 เม.ย.
  • ยาว 3 นาที

มุมคนชอบอ่านวันนี้อาจจะไม่เกี่ยวกับหมา ไก่ หรือแมวโดยตรงแต่รับรองว่าจะส่งผลกระทบกับทุกชีวิตบนโลกเมื่อมันมาถึงอย่างแน่นอนนั่นก็คือ AGI ครับ ผมไม่ได้กำลังพูดถึงค่าความว่องไวในเกมอะไรซักอย่างแต่กำลังพูดถึง next gen ของปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ที่เรารู้จักกันดีและเข้ามามีอิทธิพลในทุกวงการในขณะนี้ เช่นเคยครับ ผมไม่ได้หาข้อมูลเหล่านี้เอง ผมได้ใช้ Chat GPT ทำการ Deep Search ในหัวข้อด้านบนครับ โดยเลือกมุมมองของ AGI จากความเห็นของบริษัทชั้นนำครับ AGI ตามมุมมองของบริษัท AI ชั้นนำ

  • OpenAI: ให้นิยาม ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป (AGI) ว่าเป็นระบบ AI ที่มีความสามารถสูงมาก มีความเป็นอัตโนมัติในตัวเอง และสามารถทำงานได้เหนือกว่ามนุษย์ในงานส่วนใหญ่ที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจ​openai.com โดยเป้าหมายหลักของ OpenAI คือพัฒนา AGI อย่างปลอดภัยเพื่อให้เกิดประโยชน์กับมนุษยชาติทุกคน

  • Google DeepMind: มีพันธกิจในการ “แก้ปัญหาปัญญาประดิษฐ์” เพื่อสร้าง AI ที่มีสติปัญญาคล้ายมนุษย์ในทุกด้าน เดมีส ฮาซซาบิส (CEO) กล่าวไว้ว่า AGI ควรจะเป็นระบบที่ "สามารถทำงานทางปัญญาได้ทุกประเภทเท่าที่มนุษย์ทำได้"​sciencefriday.com ซึ่งหมายถึง AI ที่เก่งในงานทุกแขนงไม่จำกัดแค่เรื่องใดเรื่องหนึ่ง

  • Anthropic: บริษัทวิจัยด้านความปลอดภัยของ AI แห่งนี้ (ก่อตั้งโดยอดีตทีม OpenAI) มอง AGI ว่าเป็น “AI ทรงพลัง” ที่จะฉลาดกว่ามนุษย์ระดับอัจฉริยะในแทบทุกสาขา โดย Dario Amodei (CEO) เปรียบภาพรวมของ AGI ไว้ว่าเสมือน "ประเทศที่เต็มไปด้วยอัจฉริยะอยู่ในดาต้าเซ็นเตอร์" ทำงานด้วยความเร็วเหนือมนุษย์ และคาดว่าอาจพัฒนาได้ภายในปี 2026​businessinsider.com (สื่อถึงระบบ AI จำนวนมากที่ร่วมมือกันแก้ปัญหาซับซ้อนอย่างอิสระ)

  • Meta (Facebook): มาร์ค ซักเคอร์เบิร์กประกาศวิสัยทัศน์ระยะยาวที่จะพัฒนา AGI แบบเปิดเผยซอร์สโค้ด โดยเชื่อว่าเจเนอเรชันถัดไปของบริการออนไลน์ “จำเป็นต้องสร้างระบบที่มีสติปัญญาทั่วไปสมบูรณ์”​theguardian.com ทั้งนี้ AGI แม้ไม่มีคำจำกัดความตายตัว แต่โดยทั่วไปหมายถึงระบบ AI เชิงทฤษฎีที่สามารถทำงานได้หลากหลายแบบในระดับที่เทียบเท่าหรือเหนือกว่ามนุษย์ในแทบทุกด้าน​theguardian.com ซักเคอร์เบิร์กระบุว่าควรเปิดให้ใช้งาน AGI อย่างกว้างขวางเท่าที่จะรับผิดชอบได้ เพื่อให้ทุกคนได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้​theguardian.com (แนวทางนี้แม้ถูกมองว่าเสี่ยง แต่สะท้อนความตั้งใจของ Meta ที่จะกระจายพลังของ AGI สู่วงกว้าง)


ความสามารถของ AGI เทียบกับ AI เฉพาะทาง (Narrow AI)

AGI มีศักยภาพที่จะทำงานได้แทบทุกประเภทที่มนุษย์สามารถทำได้ โดยเรียนรู้และปรับตัวแก้ปัญหาในหลายๆ แขนงความรู้อย่างยืดหยุ่นราวกับเป็นสติปัญญาของมนุษย์จริงๆ​businessinsider.com แตกต่างจาก ปัญญาประดิษฐ์เฉพาะทาง (Narrow AI) ในปัจจุบันที่ถูกออกแบบมาให้เก่งเฉพาะด้านหรือทำงานเจาะจงอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น ตัวอย่างเช่น ChatGPT หรือ Google Gemini จัดเป็น Narrow AI ที่เชี่ยวชาญด้านภาษาธรรมชาติและการสนทนา แต่ไม่สามารถทำงานนอกเหนือขอบเขตนั้นได้ทั้งหมด ในทางตรงข้าม AGI ที่แท้จริงจะสามารถทำงานทางปัญญาได้หลากหลายรูปแบบในระดับเทียบเท่ามนุษย์หรือมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ข้อมูล วิจัยวิทยาศาสตร์ วางกลยุทธ์ทางธุรกิจ หรือสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ โดยไม่ต้องจำกัดอยู่เพียงงานประเภทใดประเภทหนึ่ง​businessinsider.com ยิ่งไปกว่านั้น AGI อาจมีความสามารถ เหนือมนุษย์ ในบางด้าน เช่น ประมวลผลข้อมูลได้รวดเร็วกว่ามนุษย์หลายเท่าตัว และทำหลายงานพร้อมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่ง AI เฉพาะทางทั่วไปไม่สามารถทำได้ในระดับนั้น


ผลกระทบเบื้องต้นของ AGI

เมื่อ AGI ก้าวจากทฤษฎีสู่ความจริง จะส่งผลกระทบในวงกว้างตั้งแต่ระดับประเทศไปจนถึงระดับโลก ทั้งในด้านบวกและด้านลบ ในช่วงระยะเริ่มต้นของการมาถึง AGI เราอาจเห็นการเปลี่ยนแปลงดังต่อไปนี้:

ระดับประเทศไทย

  • ภาคแรงงาน: AGI สามารถทำงานอัตโนมัติได้ทั้งงานรูทีนและงานที่ต้องใช้ความคิดขั้นสูง หลายอาชีพอาจถูก ทดแทนหรือเปลี่ยนบทบาท โดยระบบอัจฉริยะ เช่น งานธุรการ การวิเคราะห์ข้อมูล หรืองานผลิตที่ซับซ้อน ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงด้านการจ้างงานและการว่างงานในบางสาขา (job displacement)openai.com แรงงานไทยอาจต้องเร่งปรับตัว ยกระดับทักษะ (reskill/upskill) ไปสู่งานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์หรือการตัดสินใจเชิงมนุษย์มากขึ้น ในทางกลับกัน AGI จะเป็นเสมือน “ผู้ช่วยอัจฉริยะ” ที่ช่วยเพิ่มผลิตภาพการทำงานอย่างมหาศาล ทำให้งานหลายอย่างเสร็จเร็วขึ้น ลดข้อผิดพลาด และเปิดโอกาสให้มนุษย์มุ่งเน้นงานที่สร้างคุณค่าสูงกว่า

  • ภาคธุรกิจ: องค์กรธุรกิจไทยจะได้รับทั้งโอกาสและความท้าทายจาก AGI บริษัทที่ปรับใช้ AGI จะสามารถ เพิ่มประสิทธิภาพและนวัตกรรม ได้ก้าวกระโดด เช่น ใช้ AGI เป็นที่ปรึกษาวิเคราะห์กลยุทธ์ ช่วยเจรจาธุรกิจ เขียนสัญญา หรือดูแลระบบลูกค้าสัมพันธ์ตลอด 24 ชั่วโมง การมีเครื่องมืออัจฉริยะขั้นสูงจะช่วยให้แม้แต่ธุรกิจขนาดเล็กก็เข้าถึงความสามารถระดับสูงได้ เทียบเท่าบริษัทยักษ์ใหญ่deepmind.google (เพราะ AGI จะเปิดโอกาสให้องค์กรเล็กสามารถแก้ปัญหาซับซ้อนได้ ไม่แพ้องค์กรที่มีทรัพยากรมหาศาล)​deepmind.google ส่งผลให้การแข่งขันทางธุรกิจเข้มข้นขึ้นและยกระดับมาตรฐานของสินค้าและบริการโดยรวม ในภาพรวม AGI จะช่วยขับเคลื่อนธุรกิจไทยให้เติบโต แต่ธุรกิจดั้งเดิมที่ปรับตัวไม่ทันอาจสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน นอกจากนี้ การเข้าถึง AGI อย่างเปิดกว้าง (เช่น โมเดลโอเพนซอร์สของ Meta) ยังช่วย กระจายโอกาส ให้ผู้ประกอบการและนักพัฒนาไทยสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของ OpenAI ที่ว่าการเปิดให้คนทั่วไปใช้ AI จะนำไปสู่การกระจายอำนาจและประโยชน์ที่กว้างขวางขึ้น​openai.com

  • การศึกษา: AGI จะเข้ามาพลิกโฉมการศึกษาไทยในหลายมิติ สามารถทำหน้าที่เป็นครูหรือผู้สอนอัจฉริยะที่ให้คำแนะนำแบบ รายบุคคล แก่นักเรียนแต่ละคนได้ตามความต้องการเฉพาะบุคคล ช่วยให้นักเรียนเรียนรู้ได้เต็มศักยภาพของตนเอง เช่น ระบบติวเตอร์ AI ที่ปรับรูปแบบการสอนให้เหมาะกับผู้เรียนแต่ละคน ทำให้การศึกษามีความทั่วถึงและน่าสนใจยิ่งขึ้น​deepmind.google นอกจากนี้ AGI ยังช่วยสร้างสื่อการเรียนการสอนอัตโนมัติ แปลภาษาทันที หรือให้คำตอบข้อสงสัยทางวิชาการได้ตลอดเวลา บทบาทของครูผู้สอนอาจปรับเปลี่ยนไปเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ คอยเสริมทักษะด้านสังคมและจริยธรรมที่ AI ทดแทนไม่ได้ ขณะเดียวกัน ระบบการศึกษาต้องเร่งปรับปรุงหลักสูตรเพื่อเตรียมคนรุ่นใหม่ให้มีทักษะที่ AI ไม่สามารถแทนที่ได้ (เช่น ความคิดสร้างสรรค์ การคิดเชิงวิจารณญาณ และการทำงานร่วมกับ AI)

  • เทคโนโลยี: วงการเทคโนโลยีไทยจะได้รับแรงกระตุ้นอย่างมากจาก AGI นวัตกรรมด้านต่างๆ จะพัฒนาเร็วขึ้นแบบก้าวกระโดด AGI สามารถทำงานวิจัยและพัฒนา (R&D) ได้ตลอดเวลาและประมวลผลข้อมูลมหาศาลในพริบตา ซึ่งจะช่วยนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรไทยในการค้นพบสิ่งใหม่ๆ หรือแก้ปัญหาที่เคยยากเกินความสามารถเดิมได้ ตัวอย่างเช่น การวิจัยยาใหม่ๆ การพัฒนาพลังงานสะอาด หรือการออกแบบวิศวกรรมซับซ้อน จะทำได้รวดเร็วและมีต้นทุนถูกลง AGI จะกลายเป็นตัวเร่ง (catalyst) ที่ทำให้ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเกิดขึ้นเร็วและพร้อมๆ กันหลายด้าน​deepmind.google ซึ่งจะช่วยยกระดับขีดความสามารถทางเทคโนโลยีของประเทศ อย่างไรก็ตาม การก้าวกระโดดของเทคโนโลยีนี้จำเป็นต้องมาพร้อมมาตรการรองรับ เช่น การอัพเกรดโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ความปลอดภัยไซเบอร์ และการพัฒนากำลังคนด้านไอทีให้ทันต่อเครื่องมือใหม่ๆ

  • เศรษฐกิจ: เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มจะได้รับแรงขับเคลื่อนเชิงบวกจาก AGI ในระยะเริ่มต้นจากผลิตภาพที่เพิ่มขึ้นในทุกภาคส่วน ระบบ AI อัจฉริยะจะช่วยสร้าง “ความอุดมสมบูรณ์” ทางเศรษฐกิจได้มากขึ้น เช่น ผลิตสินค้าและบริการได้เร็วและถูกลง กระตุ้นให้ GDP เติบโตสูง (คล้ายกับการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งใหม่)​openai.com ธุรกิจใหม่ๆ เกี่ยวกับ AI จะเกิดขึ้นและดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาในไทยมากขึ้น หากไทยสามารถเป็นผู้นำหรือศูนย์กลางด้านนวัตกรรม AI ในภูมิภาคก็จะยิ่งเสริมศักยภาพการแข่งขันทางเศรษฐกิจในเวทีโลก อย่างไรก็ดี ในระยะเปลี่ยนผ่าน โครงสร้างเศรษฐกิจ อาจสั่นคลอนจากการที่บางอุตสาหกรรมล้มหายไปและมีอุตสาหกรรมใหม่เกิดขึ้น ภาครัฐอาจต้องเข้ามามีบทบาทในการปรับนโยบายเศรษฐกิจและแรงงานให้เท่าทัน เช่น การจัดสรรสวัสดิการหรืออบรมวิชาชีพใหม่ให้แรงงานที่ได้รับผลกระทบ (OpenAI ชี้ว่า การปรับตัวของเศรษฐกิจและการออกกฎระเบียบรองรับ เป็นสิ่งสำคัญในการเปลี่ยนผ่านสู่ยุค AGI​openai.com) หากบริหารจัดการได้ดี AGI จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วย ยกระดับคุณภาพชีวิต และความกินดีอยู่ดีของประชาชนไทยโดยรวม


ระดับโลก

  • เศรษฐกิจโลก: การถือกำเนิดของ AGI จะส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อเศรษฐกิจในระดับสากล ผลิตภาพทั่วโลกจะพุ่งสูงขึ้น เพราะ AI สามารถทำงานได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพกว่ามนุษย์ในหลายๆ ด้าน เศรษฐกิจโลกอาจเข้าสู่ช่วง “เฟื่องฟู” จากการที่ AGI เร่งการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาลopenai.com เช่น ระบบการผลิตอัจฉริยะลดต้นทุนและเวลา, การขนส่งและโลจิสติกส์ที่ปรับโดย AI ทำให้กระจายสินค้าได้รวดเร็วไร้รอยต่อ, การเงินการธนาคารที่ขับเคลื่อนด้วย AI ช่วยบริหารความเสี่ยงและเพิ่มประสิทธิภาพการลงทุน เป็นต้น ประเทศที่เข้าถึงและพัฒนา AGI ได้ก่อนย่อมได้เปรียบทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้ โครงสร้างเศรษฐกิจโลก อาจเปลี่ยนศูนย์ถ่วงใหม่ ประเทศมหาอำนาจเดิมอาจต้องแข่งขันกับประเทศหรือบริษัทที่ครองเทคโนโลยี AGI นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเรื่อง ความเหลื่อมล้ำ: หาก AGI กระจุกตัวอยู่ที่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ความมั่งคั่งอาจยิ่งกระจายตัวไม่เท่าเทียม แต่ถ้ามีการเปิดให้เข้าถึง AGI อย่างทั่วถึง (เช่น โมเดลโอเพนซอร์สของ Meta) ก็อาจช่วยให้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจถูกแจกจ่ายอย่างเป็นธรรมมากขึ้น​theguardian.com ระยะเริ่มแรกนี้ ประเทศต่างๆ และองค์การระหว่างประเทศอาจต้องร่วมมือกันในการกำหนดมาตรฐานและนโยบายเศรษฐกิจใหม่ที่รองรับยุคของ AGI

  • การเมือง: AGI จะกลายเป็นหัวข้อสำคัญในเวทีการเมืองทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ รัฐบาลทั่วโลกจะถูกกดดันให้วางกรอบกำกับดูแล AI ที่ทรงพลังนี้อย่างรอบคอบ ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายควบคุมการใช้งาน AGI, มาตรการป้องกันการผูกขาดเทคโนโลยี, หรือสนธิสัญญาระหว่างประเทศเกี่ยวกับการแบ่งปันความรู้และความปลอดภัยของ AGI นโยบายสาธารณะจะต้องตอบคำถามใหญ่หลายข้อ เช่น อะไรที่อนุญาตให้ AGI ทำได้หรือไม่ได้, ใครควรเป็นผู้ควบคุมดูแล, และ จะรับมือกับการใช้ AGI ในทางที่ผิดอย่างไร ประเด็นเหล่านี้เริ่มถูกตระหนักแล้วจากกรณี AI ปัจจุบัน เช่น การใช้ AI สร้างข้อมูลเท็จหรือเนื้อหาที่เป็นอันตราย ซึ่งเป็น ตัวอย่างการใช้ในทางที่ผิด (misuse) ของ AI ที่เกิดขึ้นแล้วในปัจจุบัน​deepmind.google ในอนาคต AGI ที่ก้าวหน้าขึ้นอาจถูกนำมา ชักจูงความเชื่อหรือพฤติกรรมของสาธารณะ อย่างแยบยล จนอาจก่อผลกระทบทางสังคมโดยไม่ตั้งใจ​deepmind.google ทำให้นักการเมืองและผู้ออกกฎหมายต้องให้ความสำคัญกับการป้องกันภัยเหล่านี้อย่างจริงจังแต่สมดุลกับการไม่ปิดกั้นนวัตกรรม มากไปกว่านั้น การมาถึงของ AGI อาจกระตุ้นให้รัฐบาลต้องพิจารณานโยบายเศรษฐสังคมใหม่ๆ เช่น รายได้พื้นฐานถ้วนหน้า (UBI) เพื่อรองรับประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบจากการจ้างงานที่ลดลง (OpenAI ถึงกับมีการสนับสนุนการทดลองนโยบาย UBI ในบริบทโลกอนาคตที่ AI มีบทบาทสูง​openai.com) โดยสรุป ภูมิทัศน์การเมืองโลก ในยุคแรกเริ่มของ AGI จะเต็มไปด้วยความพยายามในการหาจุดสมดุลระหว่างการส่งเสริมนวัตกรรม AI และการคุ้มครองสังคมจากความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

  • เทคโนโลยีโลก: ในระดับโลก AGI จะเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาอย่างสูงให้กับความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี งานวิจัยที่เคยใช้เวลาหลายปีอาจเหลือเพียงไม่กี่เดือน ด้วยความช่วยเหลือของ AGI ตัวอย่างเช่น การค้นพบตัวยาและวัคซีนใหม่ๆ จะรวดเร็วขึ้นเพราะ AI สามารถวิเคราะห์สารประกอบนับล้านได้ในเวลาอันสั้น​deepmind.google, การแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอาจมีแนวทางใหม่ๆ ที่เกิดจากการจำลองสภาพแวดล้อมและคำนวณโดย AGI, รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงอื่นๆ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ออกแบบปัญญาประดิษฐ์ (AI สร้าง AI) ที่อาจทำให้ ความก้าวหน้าของ AI เร็วยิ่งขึ้นแบบทวีคูณ (self-improvement)​openai.com ผลคือโลกอาจเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่เราคาดคิดได้ในปัจจุบัน เมื่อ AGI สามารถเร่งรัดการค้นคว้าและยังอาจพัฒนาต่อยอดตัวเองอย่างต่อเนื่อง (บางฝ่ายเรียกจุดนี้ว่า การระเบิดของปัญญาประดิษฐ์ หรือ intelligence explosion) ในด้านบวก สิ่งนี้จะนำพามนุษยชาติไปสู่ยุคแห่งความรู้และนวัตกรรมที่รุ่งเรืองที่สุดเท่าที่เคยมีมา เราอาจเห็นความก้าวหน้าที่เคยเป็นไปไม่ได้กลายเป็นจริงภายในชั่วเวลาไม่กี่ปี (OpenAI ระบุว่า AGI จะช่วยค้นพบองค์ความรู้ใหม่ที่เปลี่ยนขีดจำกัดของสิ่งที่เป็นไปได้ในปัจจุบัน​openai.com) แต่อีกด้านหนึ่ง ความเร็วของการเปลี่ยนแปลงอาจทำให้สังคมปรับตัวไม่ทัน เกิดความตึงเครียดหรือความสับสนในช่วงเปลี่ยนผ่านได้ ดังนั้นในช่วงเริ่มต้นของยุค AGI นักวิทยาศาสตร์และวิศวกรทั่วโลกจำเป็นต้องร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด ทั้งในการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่และการแบ่งปันแนวทางความปลอดภัย เพื่อให้การก้าวกระโดดทางเทคโนโลยีนี้เกิดประโยชน์สูงสุดและลดผลกระทบเชิงลบให้น้อยที่สุด

  • ภูมิรัฐศาสตร์: AGI จะถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์เชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งสำหรับประเทศต่างๆ เพราะใครก็ตามที่ครอบครองเทคโนโลยีนี้ก่อน ย่อมสามารถใช้ประโยชน์ในด้านเศรษฐกิจและความมั่นคงได้มาก ประเทศมหาอำนาจจึงมีแนวโน้มจะเข้าสู่ การแข่งขันพัฒนา AGI อย่างเข้มข้น คล้ายกับการแข่งขันด้านอาวุธนิวเคลียร์ในศตวรรษที่ผ่านมา แต่ครั้งนี้คือการแข่งขันด้านปัญญาประดิษฐ์ ความได้เปรียบเชิงภูมิรัฐศาสตร์ อาจอยู่ที่ฝ่ายที่มี AGI ขั้นสูงก่อน ซึ่งอาจนำไปสู่ความตึงเครียดระหว่างชาติหากไม่มีความร่วมมือกัน ยกตัวอย่างที่ถูกหยิบยกมาบ่อยคือ หากรัฐบาลเผด็จการใดได้ครอบครอง AGI ที่ฉลาดล้ำก่อนผู้อื่น ก็อาจใช้ความได้เปรียบนั้นในการครอบงำหรือกดขี่ ทั้งในประเทศตนเองและระดับโลก ซึ่งถือเป็นภัยใหญ่หลวงต่อมนุษยชาติ​openai.com ในทางกลับกัน หากประชาคมโลกตระหนักถึงความเสี่ยงนี้และร่วมมือกันตั้งแต่ต้น (เช่น การแลกเปลี่ยนข้อมูล การตรวจสอบความก้าวหน้าซึ่งกันและกัน) ก็อาจหลีกเลี่ยงสถานการณ์เลวร้ายได้ บริษัทชั้นนำอย่าง OpenAI ก็เน้นย้ำเรื่องนี้ โดยระบุว่าหากโครงการอื่นใกล้จะสร้าง AGI ได้ก่อนและมีแนวทางความปลอดภัยที่ดี OpenAI ก็ยินดี หยุดแข่งและร่วมมือ กับโครงการนั้น เพื่อป้องกันการแข่งขันที่เสี่ยงต่อสังคม​openai.com ลักษณะความร่วมมือข้ามชาติและข้ามองค์กรเช่นนี้จะมีบทบาทสำคัญยิ่งในยุค AGI เริ่มต้น นอกจากนี้ องค์กรระหว่างประเทศอย่างสหประชาชาติอาจต้องเข้ามามีบทบาทเจรจาจัดทำ มาตรการความปลอดภัยโลก สำหรับ AGI เช่น ข้อตกลงให้มีการตรวจสอบระบบ AGI โดยอิสระก่อนใช้งานจริง หรือการจำกัดการใช้งาน AGI ในด้านการทหารที่อันตราย เป็นต้น เพื่อป้องกันไม่ให้ AGI ถูกนำมาใช้อย่างไร้การควบคุมจนเป็นภัยต่อสันติภาพโลก


สรุป

โดยสรุป Artificial General Intelligence (AGI) หรือปัญญาประดิษฐ์ทั่วไปตามนิยามของบริษัทชั้นนำอย่าง OpenAI, Google DeepMind, Anthropic และ Meta คือระบบ AI ชั้นสูงที่มีความฉลาดใกล้เคียงหรือเหนือกว่ามนุษย์ในแทบทุกด้าน สามารถเรียนรู้ แก้ปัญหา และดำเนินงานอย่างอิสระครอบคลุมหลากหลายขอบเขต AGI จะก้าวข้ามขีดจำกัดของ AI แบบจำกัดที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน กลายเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะสำหรับทุกงานทางปัญญา ไม่ว่าจะเป็นงานวิทยาศาสตร์ ธุรกิจ ศิลปะ หรือการตัดสินใจเชิงยุทธศาสตร์ ในด้านศักยภาพ AGI ถูกคาดหวังว่าจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของมนุษย์ เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ทางเศรษฐกิจ กระตุ้นนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน​openai.comdeepmind.google แต่ขณะเดียวกันก็อาจก่อให้เกิดความท้าทายใหญ่หลวงในช่วงแรกเริ่ม ไม่ว่าจะเป็นการสั่นคลอนตลาดแรงงาน ปัญหาสังคมและการเมือง ไปจนถึงประเด็นความมั่นคงของโลก ผู้พัฒนา AGI ชั้นนำต่างตระหนักถึงความเสี่ยงของการใช้งานในทางมิชอบ อุบัติเหตุร้ายแรง และการเปลี่ยนแปลงทางสังคมอย่างฉับพลันopenai.com จึงเน้นย้ำว่าการเดินหน้าสู่ยุค AGI ต้องมาพร้อมความระมัดระวังและความร่วมมือระหว่างกันในระดับโลก เพื่อให้ AGI กลายเป็น จุดเปลี่ยนผ่านที่สร้างคุณูปการแก่สังคมมนุษย์ มากที่สุด และลดผลกระทบด้านลบให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ในภาพรวม ผลกระทบระยะเริ่มต้นของ AGI ต่อสังคมมนุษย์ จะเป็นทั้งโอกาสอันยิ่งใหญ่และความท้าทายที่ต้องบริหารจัดการอย่างรอบคอบ ซึ่งมนุษยชาติจะต้องเรียนรู้ ปรับตัว และร่วมมือกันเพื่อก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของปัญญาประดิษฐ์อย่างมั่นคงและยั่งยืน



รูปประกอบ บิจิน สาวน้อยเสือดำ อายุ 3 เดือน
รูปประกอบ บิจิน สาวน้อยเสือดำ อายุ 3 เดือน



 
 
 

Comments


bottom of page